วันอังคารที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สนิมในใจ"


สนิมมันเกิดในเนื้อเหล็ก 
กิเลสมันเกิดในดวงจิต 
ต้องประหารจิตให้เป็นธรรม

ธรรมะหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต




"บารมี 30 ทัศ"

"สุข สงบ"


ที่บางที่ เหมาะกับ คนบางคน 

บนบกก็เหมาะกับสัตว์บก

ในน้ำก็เหมาะกับสัตว์น้ำ

ในป่ามันก็เหมาะกับสัตว์ป่า

หมาป่าไม่เหมาะจะอยู่ในบ้าน 

หมาบ้านไม่เหมาะจะอยูในป่า

อย่าไปอยู่ผิดที่ผิดทาง

หาที่ที่เหมาะกับตัวเอง 

ใช้ชีวิตให้มีความสุขที่สุด

สุขที่กาย ไม่ยั้งยืน

สุขที่ใจ สงบที่ใจ ยั้งยืน

หมั่นสร้างสมบุญกุศล

เก็บไว้เป็นทุนรอนในอนาคต


"บ้าน"





บ้านของเราอาจจะหลังเล็ก 

แต่มันจะต้องน่ารักและอบอุ่นที่สุดในโลก 

มันจะมีความหมายอะไรหากว่าเรามีบ้านหลังใหญ่โต 

แต่กลับหากันไม่เจอ ร้องเรียกก็ไม่ได้ยินเสียง 

ทำให้เราดูห่างไกล

"ปัญญา"


คนมีปัญญาน้อย 


ได้รับความสุขแล้วย่อมมัวเมา แม้ถูกความทุกข์กระทบแล้วย่อมถึงความหลง 

อันสุขทุกข์ที่จรมากระทบเข้าแล้วย่อมหวั่นไหว ดุจปลาที่ดิ้นรนอยู่ในที่ร้อน ฉะนั้น 

คนโง่ถึงจะมีกำลังก็หาประโยชน์ให้สำเร็จไม่ ได้ทรัพย์มาด้วยกรรมอันร้ายแรง  


คนโง่หาปัญญามิได้ ย่อมกล่าวมุสาเพราะเหตุแห่งบุคคลอื่นหรือแม้แห่งตน 


 

"อย่ารีบร้อน"




อย่ารีบร้อน.....ที่จะอธิบายหรือตัดสินใจ 

. . . .การอธิบายที่ดี . . .ต้องอาศัยเวลาและจังหวะ และคอยให้ผู้ฟังพร้อมที่จะรับฟัง 


. . . .การตัดสินใจที่ดี . . .ต้องอาศัยข้อมูลและเหตุผล . . ใช้เวลาแต่อย่าใช้อารมณ์ 


  
เราต้องเข้าใจว่า ผู้อื่นย่อมคิดไปตามความรู้สึก และตัดสินตามใจตนเสมอ . . .


 ก่อนที่จะยอมจำนนด้วยเหตุผลหรือความถูกต้อง 

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"ความรัก หางปลาหรือหัวปลา"


หัวปลาหรือหางปลา

เคยมีเรื่องเราว่าคนเราเกิดมาเปรียบเหมือนหัวปลาไม่งั้นก้อหางปลา

แล้วเรามาหาส่วนที่ขาดเติมเข้าไปในชีวิตเพื่อความสมบูรณ์

บางคนใช้เวลา15ปีบางคนใช้เวลา20ปีบางคนนานกว่านั้น

อีกหลายคนอาจต้องใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อตามหามันบางคนหาได้

แต่มันก้อไม่ใช่

เพราะเค้าไม่ใช่คู่ของเราเช่นเราเกิดมาเป็นผู้นำนั้น

คือหัวปลากับไปชอบพอกับคนที่เป็นผู้นำเหมือนกันแรกๆอาจดูพร้อมทุกอย่าง

เราอาจยอมเป็นตามใจเค้าได้

หลังๆความเป็นตัวตนที่แท้จริงแสดงออกมาอาจไม่ยอมให้กันเหมือนก่อน

คิดซิว่าจะเกิดอะไรขึ้นหย่าร้างเลิกลาภาระทางสังคมปัญหามากมาย  

   ผู้เขียนอยากฝากทุกคนไว้ให้เข้าใจกันมากๆ

มีปัญหาหันหน้าเข้าหากันลดฐิทิลงรักกันให้มากๆ

นึกถึงแต่สวนดีๆของกันและกันไว้ อย่าใช้อารมณ์กับความรักมากนัก ยอมกันเยอะๆ

   สุดท้ายหากท่านเกิดมาเป็นหัวปลาก้อขอให้เจอหางปลาไวๆ

ส่วนคนที่เกิดมาเป็นห่างปลาก้อขอให้เจอหัวปลาไวๆเช่นกัน   โชคดีค่ะ
                                             
                                                 สุดที่รัก รักที่สุด

วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"บินไปให้ถึงฝัน"



..จงบินให้สูงกว่าที่คิด เพราะชีวิตสั้นกว่าที่หวัง..

..จงพูดให้น้อยกว่าที่ฟัง และทำให้มากกว่าที่พูด..

..จงรักให้น้อยกว่าที่รักเพราะอาจอกหักใจสลาย..

..จงดีให้มากกว่าที่ร้าย และอภัยให้มากกว่าที่ชัง..

 ..จงกลัวให้น้อยกว่าที่กล้า และศรัทธาให้มากกว่าที่เห็น..

"ถ้ารักเหมือนกับปากกา"



ถ้าความรัก

สามารถเขียนด้วยปากกา

คงขีดวาดความรักอย่างนึกฝัน
แถมขีดฆ่าคนชั่วร้ายที่สุดชัง

ขีดทุกวันคงสุดมันส์บรรเทิงใจ
ได้ขีดฆ่าไล่ความรักอันโหดร้าย

ขับลำร่ายสิ่งชั่วร้ายออกจากฝัน
อยากจะขีดขีดให้หมดคนน่าชัง

ยกเว้นฉันคนน่ารักขับบทกลอน

"ต่อกลอน"

   
 ขอบอกกล่าวเล่าแจ้งแถลงไข
ด้วยดวงใจผูกพันกันเสมอ
รู้จักกันในบทกลอนออนฉันเธอ
ได้แต่เพ้อไม่เคยพบประสบกัน
เอาอย่างงี้ดีไหมใครเห็นด้วย

... ขอให้ช่วยชี้แจ้งแถลงกับฉัน
หาโอกาสนัดพบนบนอบกัน
ส่วนเรื่องวันและเวลาว่าอีกที
ในความคิดของฉันนั้นขอกล่าว
จุติเราก่อกำเนิดเกิดศักดิ์ศรี
ศนตุ้มผู้ก่อตั้งสร้างกวี
สมควรที่จุดเริ่มต้น...สกลนคร 
                                              พิระ ยอดมงคล18/02/2012
   
    บุญนำพา พวกเรามาพานพบ
ขอนอบนพบูรพาอาจารย์ฉัน
โน้นก็ครูนี่ก็ครูเรารู้กัน
เพราะสวรรค์จัดสรรเราพบเจอ
  
     ฉะนั้นขอเธอจงนัดมา
หาเวลาพบเจอเธอกับฉัน
อีกครูบาพี่น้องมาพบกัน
ร่วมปั้นฝันก่อร่างสร้างทางธรรม
                                           สุดที่รัก รักที่สุด19/02/2012

"ครก"


เข็นครกขึ้นภูเขาอาจใช้เวลานาน  แต่เข็น คนบางคนลงจาก"คาน"ยากกว่า



วันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"กลอนกวี"




บางครั้งรักก็นำธรรมมาสอน
สรรพสิ่งที่ร่ายมาเป็นบทกลอน
แค่อยากย้อนพิจารณาค่าตัวเรา

... คนเรานั้น บ้างมีรัก บ้างมีหลง
คงไม่ตรงตามใจเสียทุกอย่าง 
บ้างชอบธรรม บ้างชอบละ บ้างชอบวาง
แต่ละอย่าง แต่ละคน แต่ละใจ

ต่่างใจต่างจิตอย่าคิดมาก
เป็นคู่ทุกข์คู่ยากแต่ปางก่อน
รักกันชอบกันก็แต่งกลอน
ที่แฝงอุทาหรณ์สอนใจเรา

"อย่ายึดติด"




"ผู้ใดหลงใหลในตำราและอาจารย์ผู้นั้นไม่อาจพ้นทุกข์ได้ แต่

ผู้ที่จะพ้นทุกข์ได้ ต้องอาศัยตำราและอาจารย์เหมือนกัน"

"อย่าดูถูก"





‎"อย่าดูงูว่าตัวเล็กแล้วจะพิษไม่มี ไฟกองเล็กจะเผาอะไรไม่ได้เลย"

ผู้ที่ศึกษาธรรมะก็เช่นกัน ใช่ว่าศึกษามานาน 

จะมีภูมิธรรมมากกว่า ผู้ศึกษามาน้อยแต่รู้จริง ปฏิบัติจริง 

ปัญญาทางธรรม ก็อาจจะมากกว่าก็ได้

"จิต"




"จิตโกรธโง่โมโหบ้าท่านว่าไว้ 
ไฟโกรธไหม้จิตตนใช่คนอื่น
ไฟเผาใจไร้ควันทุกวันคืน 
ตนขมขื่นคนอื่นสุขไม่ทุกข์ใจ"

"ไยต้องโกรธ โทษเขา ให้เศร้าจิต 
ไยไม่คิด จิตเย็น เป็นนิสัย
ไยต้องโง่ โมโหโกรธ โทษใครใคร
โกรธทำไม ทุกข์จิตเรา ใช่เขาเลย"

                                

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"สุข-ทุกข์"




สุข-ทุกข์มีอยู่ทุกหนทุกแห่ง 

จงมองว่า 

สุข-ทุกข์ มันเป็นเรื่องธรรมดา 

หัดปล่อยสิ่งที่รู้ หัดวางสิ่งที่เห็น 

และอยู่กับปัจจุบันขณะ 

สุข-ทุกข์ดังลมพัด เมื่อผ่านมา ก็จะผ่านไป

"จิตเดิม"


จิตถ้าดูดีดี จะรู้ว่าเดิมจิตไม่มีเรา 

เวลาเราเห็นสิ่งใด ก็ให้สักแต่เห็น ไม่ต้องไปเจริญตามมัน 

แค่รู้พอ รู้แล้วก็วางตัวมันเอง 

อย่าไปตาม อย่าไปห้าม อย่าไปคิด วิจารณ์มัน

นิ่งหยุดเฉย เบาโปร่งว่าง 

เจอทุกข์ก็วางทุกข์ ไม่ต้องแบกภาระใดให้ทุกข์ 

จิตเดิมนั้น ผ่องใสสว่างอยู่แล้ว


"กินข้าว กินธรรม"


กินข้าว กินธรรม

กินข้าวต้องกินที่ละคำ เราไม่สามารถกินที่ละจานได้ 

การเรียนรู้ก็เช่นกันเราต้องค่อยๆศึกษาไปที่ละขั้น ที่ละขั้น ช้าเร็วขึ้นอยู่กับตัวเราเอง

บางคนมีของเก่าสร้างมาเยอะก็เร็วหน่อย คนที่ไม่มีของเก่าอย่าไปอิจฉาเค้า

เค้าทำของเค้่ามา การปฏิบัติธรรมเหมือนกินข้าวเรากินเราก็อิ่ม เค้ากินเค้าก็อิ่ม

 แม่กินลูกจะอิ่มมั้ย (ถ้าลูกอยูในท้องหรือยังทานนมแม่อาจอาจอิ่ม)  

บุญกรรมใครทำใครได้ ถ้าเราไม่มีของเก่าจงหมั่นสร้างของใหม่ 

ด้วยการขยันปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ อย่าเกรียจคร้าน ปฏิบัติให้เป็นนิสัย

 ส่วนคนที่มีของเก่าถ้าหลงตัวเองว่ามีของเก่าเยอะแล้วไม่ทำต่อ สักวันของที่มีก็จะหมดไป

 เหมือนมีน้ำอยู่หนึ่งตุ่มตักกินทุกวัน ไม่เคยเติมน้ำลงไปในตุ่ม สักวันมันก็หมด 

ฉันใดก็ฉันนั้น จะมีของเก่าก็ดี ไม่มีก็ช่าง ขอจงตั้งใจปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ อย่างสม่ำเสมอ 

เชื่อว่าความสว่าง ความรู้แจ้งจะรอเราอยู่บั่นปลายชีวิตแน่นอน สาธุ สาธุ

"รอ"


รอคอยใครสักคนมันทุกข์-ท้อว่าเค้าจะมามั้ย แต่เชื่อเถอะ 

อยู่เฉยๆเวลาที่รอก็เท่าเดิมลองทำโน้น นี้ไปด้วยในระหว่างรอ

ถ้าคนที่เรารอเค้าไม่มาเราจะได้ไม่เสียเวลารอเปล่า่ๆ

แต่ถ้าโชคดีคนที่เรารอเค้ามาเราก็จะได้กำไรสองเท่า



วันศุกร์ที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"ความสุขรอบตัวเรา"


ธรรมชาติอันวิจิตร

น้ำค้างเกาะที่ใยแมงมุม  

น้ำบนใบหญ้า ท้องฟ้าที่สดใส 

นกบินไปมา แสงแดดที่อบอุ่น ลมพัดเย็น เมฆหมอกสีขาว

ต้นไม้ใบเขียว ดอกบัวสีขาวอมชมพู บานอยู่เต็มสระ 

สิ่งรอบๆตัวที่มองข้าม กลับเป็นสิ่งที่เราไขว่คว้าหาได้ง่าย

เพราะการเร่งรีบกับชีวิตที่ร้อนรน รังแต่ทำให้ทุกข์ร้อนใจ 

ลองใช้ชีวิตให้้ช้าลง และชื่นชมกับสิ่งที่อยู่ในมือหรือสิ่งรอบตัวที่หาได้ง่าย 

จะทำให้เรามีความสุขใจ และ รับมือกับชีวิตที่ร้อนรนได้


                                                                                สุดที่รัก  รักที่สุด

"นิพาน"


  " นิพาน "

‎"ผู้ที่อยากรู้แต่ไม่อยากทำ

ปรุงอาหารอยู่ประจำแต่ไม่ทาน

ผู้ต้องการทรัพย์มากมาย แต่ไม่ทำงาน

ผู้อยากไปนิพาน แต่เกรียจคร้านภาวนา"

แล้วเมื่อไรมันจะถึงซึ่ง "นิพาน"


"ขำ ๆ"





"ตอนแรกเห็น ความรัก เป็นเรื่องขำ


พอชอกช้ำ ถึงรู้ ว่าเศร้าหนอ

รักคู่เลิก สุขคู่ทุกข์ อยู่เคียงคลอ

นวลลออ จะเลือก ทางไหนดี "
        
                                           ซาโตริ ซัง


"ความรัก"


"ความรักนั้นย่อมเกิดด้วยเหตุ 2 ประการ อย่างนี้ คือ 

1. ด้วยความอยู่ร่วมกันในกาลก่อน 

2. ด้วยการเกื้อกูลกันในกาลปัจจุบัน  เหมือนอนุบาล


"การแก้แค้น"



"การแก้แค้นที่ดีที่สุดคือการหยุดฟูมฟาย  และทำให้เขาเสียดายที่เสียเราไป. "

"รัก"



ความโศกย่อมไม่มีแก่ผู้พ้นวิเศษแล้วจากรัก ความกลัวจักมีแต่ที่ไหน 

"ที่ไหนมีรัก ที่นั้นมีทุกข์" 

จริงอย่างพระพุทธเจ้าตรัสว่า เมื่อมีรัก 

สักพักก็ต้องพลัดพรากจากคนรักไป ทนกล้ำกลืน ฝืนทน 

ร้องห่ม ร้องไห้จากคนที่รัก รักมากก็มากน้ำตา 

รักมากก็ทุกข์มาก

 นี่แหละหนอ ความรักบางคราวคือยาพิษ 

การที่จะลืมคนที่เรารัก 

อาจยากเย็นเกินทำใจ แต่การเอาชนะใจตัวเองให้ได้ 

ยากเย็นยิ่งกว่า ชีวิตฆราวาสผู้ครองเรือน ก็หนีไม่พ้นการมีคู่ครอง

ดังนั้นจึงมีหลักธรรมสำหรับคู่ครองให้อยู่ด้วยกันอย่างยืนยาว

วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"กรรม"


     อันมนุษย์เรานั้น เมื่อเกิดมาย่อมมีกรรมเป็นของตัวเองการทำดีไม่อาจลบล้างกรรมชั่วไว้ได้อุปมาเหมือน กรรมดีเป็นน้ำสะอาดหนึ่งขัน กรรมชั่วเป็นเกลือหนึ่งกำมือ คนเราเกิดมาใช้ชีวิตในโลกใบนี้เหมือนมีตุ่มน้ำคนละใบ เมื่อใดก็ตามที่เราทำชั่วก็เหมือนเติมเกลือลงไปในตุ่มถ้าทำกรรมชั่ว 10 ครั้ง เกลือในตุ่มก็จะมี 10 กำมือเมื่อไรก็ตามที่เราทำความดีก็เหมือนเติมน้ำลงไปในตุ่มถ้าทำดีสัก 20 ครั้ง ก็เท่ากับเราเติมน้ำลงไปในตุ่ม 20 ขันเราอาจมองไม่เห็นเกลือในตุ่มแต่เกลือไม่ได้หายไปไหนมันละลายไปรวมอยู่กับน้ำ ขึ้นอยู่กับว่าเราทำชั่วหรือทำดีมากกว่า ถ้าชั่วมากกว่าน้ำในตุ่มก็จะเค็มมาก แต่ถ้าดีมากกว่า น้ำในตุ่มอาจไม่จืดสนิท แต่จะรู้สึกรสชาติกร่อยลงเท่านั้น เปรียบเหมือนกับกระทำดีไม่อาจลบล้างบาปกรรมที่ทำไว้ได้ แต่จะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้น เช่น ถ้าบาปกรรมที่ทำไว้จะส่งผลให้เราตาย เราทำดีมาก ๆ กรรมดีก็อาจส่งผลให้เราแค่บาดเจ็บก็ได้และเมื่อเราตายไปเราถ้าเราหิวน้ำเราก็ต้องกินน้ำในตุ่มนั้นแหละเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ถ้าท่านเลือกได้ท่านอยากให้มีเกลือในตุ่มมากกว่าหรือมีน้ำมากกว่าก็เลือกเอาเองแล้วกันคนเราเวลากระหายน้ำ กินน้ำเค็มมันไม่หายหิวหรอกนะคะจะทำให้ทรมานมากขึ้นด้วยป.ล.ที่สบาย หรือลำบากในชาตินี้เป็นผลจากการกระทำเมื่อชาติที่แล้ว เราแก้ไขอดีตไม่ได้แต่เรากำหนดอนาคตได้ ด้วยการทำวันนี้ให้ดี ด้วยการคิดดีทำดี พูดดี และไปในสถานที่ดี ๆ ขอให้ธรรมรักษาทุกคนค่ะ

                                                                                                           สุดที่รัก  รักที่สุด

"ความรักที่สมบูรณ์"


รักของผู้หญิง ความสงสารมาก่อน ตามด้วยความเห็นอกเห็นใจและความรักใคร่
ส่วนรักของผู้ชายความใคร่มาก่อน ตามด้วยความเห็นใจและความสงสาร
อันเป็น"ความรัก"ที่สมบูรณ์

"อย่าทุกข์ก่อนทุกข์"


"อย่าวิตกทุกข์ร้อน กับ สิ่งเลวร้ายที่ยังมา ไม่ถึง 
เหมือนพายุตั้งเค้าทะมึน เมื่อถึงเวลาอาจบ่ายหน้าไปทิศทาง อื่นก้อได้"

"ทรัพย์สมบัติกับความฉลาด"


"ทรัพย์สมบัติ ทิ้งไว้ให้ทายาทได้ แต่ความโง่และ ความฉลาดทิ้งไว้ให้ใครไม่ได้เลย"

"ชีวิตคล้ายเรือน้อย"


ชีวิตคล้ายเรือน้อย

    เฉกชนม์นี้มีความหมายคล้ายเรือน้อย 

ที่เพียงลอยตามแรงแห่งคลื่นโหมยามทุกข์เบียดบีฑาฝ่าคลื่นโครม 
      
ยามสุขไร้คลื่นโจมลำนาวาลอยเรื่อยไปในห้วงน้ำตามกระแส
    
ชลาลัยผันแปรเปลี่ยนทิศาเวียนวกไปในน่านธารธารา   
    
ไม่พบท่าเทียบฝั่งยั้งหยุดเรือมองชะแง้แลทิศคิดอยู่นิ่ง 

ถ่วงเรือไว้ด้วยสิ่งทำหางเสือกำหนดทางคัดท้ายอยู่ปลายเรือ 

ต้านกระแสความเชื่อที่เคยมีหวังจะไปให้ถึงลำสำเภาทอง 

ที่ฉายส่องผ่องประกายรัศมีอยู่เบื้องหน้าไกลไกล โน้นที 

จอดรอรับด้วยไมตรีมาช้านานจึงวาดพายไปบนสายทางเส้นนั้น 

เรือน้อยพลันมีร่องรอยความร้าวฉานเกิดรูรั่วขึ้นมากมายในกระดาน

 เปรียบทวารที่ซ่านไปในอารมณ์เหลียวหาชันยาเรือเมื่อน้ำเข้า

วิดน้ำเก่าเททิ้งสิ่งหมักหมมเพียรวาดพายให้เรือเบาเข้าแรงลม

อุดรอยรั่ว... วิดน้ำตม... เร่งรีบพายหมายสมัครสามัคคีมีในทาง 

ไม่อ้างว้างมีเชือกเหนี่ยวเกลียวแปดสายกลายเป็นหนึ่งถึงสำเภาที่เงาพราย

เรือลำน้อยถึงที่หมายไม่เวียนวนโดย ดอกแก้วเรือชีวิตของเรานั้น

ได้ลอยละล่องไปกับเกลียวคลื่นแรงลมและอำนาจแห่งกรรมของตนเองกันมานานแสนนาน ..

บ้างก็จมลงก้นบึ้งและทะเลชีวิต โดยไม่มีทางกู้ขึ้นมาได้เลย 

ก็เพราะเหตุแห่งมิจฉาทิฏฐิที่ฝังแน่นหนา หนักยิ่งอยู่ภายใต้จิตใจของตนเอง .

แต่ถ้าวันนี้ เราทั้งหลาย ยังมีโอกาสที่จะพาชีวิตเข้าฝั่ง 

ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโอกาสเทียบท่าแห่งธรรม 

อันอุดมสมบูรณ์ด้วยแสงสว่างและความร่มเย็นแล้ว ...

ท่านจะเพียรพาเรือชีวิตมาให้ ถึงท่ากันหรือไม่วันและเวลาของชีวิตนั้น

 เรามีคนละน้อยนิด ถ้ายังไม่คิดให้ถูก คิดให้รอบครอบ

 แล้วก็จะไม่มีทางที่จะหนีมหันตภัยแห่งอำนาจกรรมได้พ้นเลยนักล่าผู้ยิ่งใหญ่ 

ที่ไล่ตามล่าคร่าชีวิตของเราทุกคน สัตว์ทุกชนิด 

ไม่ว่าจะเกิดในภูมิใดก็ตาม กำลังย่างใกล้เรามาทุกทีแล้ว 

นั่นก็คือความตายด้วยเหตุนี้เอง เราจึงควรเลือกทางให้แก่ชีวิตที่ดีที่สุดเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้ 

แล้วเร่งกำลังแห่งความเพียรชอบประกอบด้วยสติ

และปัญญาที่จะนำเรือชีวิตลำน้อยของเรา

วันอาทิตย์ที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"รักแท้"



รักแท้

เปรียบเสมือนดาวบนท้องฟ้า

แม้บางครั้งมองไม่เห็น แต่คุณจะรู้ว่ามันอยู่ตรงนั้นเสมอ



"ตัด เพื่อ ก่อ"




       ฝีหนองที่เป็นเนื้อเน่าต้องตัดทิ้ง 

ถึงจะสร้างเนื้อใหม่ขึ้นได้นิสัยที่ไม่ดีจึงต้องขจัดทิ้งไป 

อิริยาบทที่ดีจึงปรากฏออกมาได้กล้าหาญเผชิญต่ออุปสรรค 

จึงจะสามารถเรียนรู้เทคนิควิธีผ่านการทดสอบได้

ก็จะสามารถแบกรับภาระอันยิ่งใหญ่ 

นับเป็นแบบอย่างที่ดีให้ผู้อื่นได้ศึกษา

"ปราชญ์เม่งจื้อ"


ปราชญ์เม่งจื้อกล่าวว่า:

"ฟ้ามีบรรดาศักดิ์แห่งฟ้า มนุษย์มีบรรดาศักดิ์ของมนุษย์"

การมีคุณธรรม ความเมตตา ความจงรักภักดี มีสัจจะและสร้างกุศลโดยไม่เบื่อหน่าย
นั่นคือ บรรดาศักดิ์แห่งฟ้า

"พบลิงแค่ครึ่งทาง"

"พบลิงแค่ครึ่งทาง" 

อาจารย์ สุมโน ภิกขุ พระฝรั่ง อดีตชาวเมืองชิคาโก ประเทศสหรัฐอเมริกา 


ในปรัชญาธรรมอันเก่าแก่ของเอเชียตะวันออก

     " ลิง"ถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของจิตที่มีลักษณะไม่อยู่นิ่ง ยุกยิก
 คอยกระโดดจากสิ่งหนึ่งไปสู่อีกสิ่งหนึ่ง ไม่เชื่อฟัง
 ผันแปรเปลี่ยนแปลงง่าย และด้วย "จิตที่เหมือนลิง" นี้
 แนวทางการฝึกฝนจิตของโลกตะวันออก อาทิ การปฏิบัติกรรมฐาน โยคะ
 และการสวดท่องมนต์ ก็เป็นวิธีการต่างๆที่พยายาม จัดการกับจิตที่ซุกซน

    " ครึ่งทาง" หมายถึงอุบายอันชาญฉลาดในการบริหารจิต 
 เป็นวิธีที่ไม่ตึงหรือแข็งกระด้างจนเกินไป และก็ไม่หย่อนยานจนเกินไป 
 " ครึ่งทาง" เป็นทัศนคติที่ตั้งอยู่บนหลักการของความสมดุลเป็นกลาง 
 ไม่ถูกกระทบโดยอาการไม่อยู่นิ่งของจิตที่กระโดดไปกระโดดมา 

    " การพบ" แสดงออกถึงความอุตสาหะที่จะบรรลุเป้าหมาย
 มันหมายถึงความตั้งใจและความกระตือรือร้นในการทำจิตซึ่งเป็นสิ่งที่สงบได้ยาก
 ให้เกิดความตั้งมั่นและเป็นกลาง และด้วยความพยายามที่มุ่งมั่นนี้
 ประกอบกับความพากเพียร ซื่อตรง ภายใต้การกำกับดูแลของปัญญา
 ทำให้เราสามารถเข้าถึงการเจริญในธรรมที่นำไปสู่หนทางอันถูกต้อง
 เพื่อที่เราจะได้ "พบลิงที่ครึ่งทาง" นั่นเอง

"พุทธะ"



จะเป็นพระพุทธะนั้นไม่ใช่เรื่องแปลก

แต่จะต้องหมั่นสร้างความดี 

ละเว้นซึ่งบาปกรรม 

องค์เทพเทวามีอิทธิฤทธิ์ได้ 

เพราะท่านมีแต่ความปิติยินดี ไม่มีความทุกข์วิตกกังวล 

พระพุทธะล้วนแล้วแต่สร้างประโยชน์ ให้เกิดแก่ตนเองและผู้อื่น

วันศุกร์ที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"งาน"



หลักการทำงานให้ยาวนาน 

(1.)  ขยัน-เหมือนอูฐ....... ..

(2.)  ไม่พูด-เหมือนปลา..... 

(3.)  ซื่อสัตย์-เหมือนหมา... 

(4.) แกล้งโง่-เหมือนควาย..

"รัก คือ อะไร"










ความรัก คือ โรคอย่างหนึ่งเพราะไม่ไช่ว่าทุกคนจะได้เจอ

ความรัก คือ ศิลปะที่คนมีรักเท่านั้นจะเข้าใจ

ความรัก คือ สิ่งที่ทำให้คนฉลาดกลายเป็นคนโง่ และเปลี่ยนคนโง่ให้กลายเป็นคนฉลาด

ในความรักมีความลับอยู่ว่า จงอย่ารักในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุข แต่จงมีความสุขในสิ่งที่เรารัก

ความรัก ปลดปล่อยเราให้เป็นอิสระจากกฎเกณฑ์เดิมๆของชีวิต

ความรัก มิใช่การก้าวนำหรือก้าวตาม แต่เป็นการก้าวไปพร้อมกัน

ความรัก คือ การยอมเป็นน้ำเย็น ขณะที่อีกฝ่ายร้อนเป็นไฟ

ความรัก ทำให้นาทีเดียวของการอยู่ร่วมกันนั้นยาวนานชั่วนิรันดร์

ความรัก จะยาวนานหรือแสนสั้น ขึ้นอยู่กับวิธีที่เรารัก

กว่าจะได้พบเจอความรักนั้นเสนยาก อย่าให้มันจบสิ้นลงในวันเดียว

ถ้าหมดรักกันแล้ว ต่อให้พูดมากสักเท่าใดก็ไม่สามารถกลับมารักกัน

ความรัก ทำให้เกิดประกายไฟในหัวใจ อยู่เคียงข้างกันเสมอ แม้ในวันที่ทุกข์ตรมนั้นคือ รัก

ความรัก ทำให้วันที่เสนเศร้ากลายเป็นวันอันแสนสุข

ความรัก คือ สิ่งที่มองไม่เห็นด้วยตา แต่สัมผัสได้ด้วยหัวใจ ความรักที่รีบร้อน มักจะพบจุดสิ้นสุดที่รวดเร็ว

ความรัก ไม่ใช่การมองตากัน แต่เป็นการมองไปในทิศทางเดียวกัน ยามแรกรัก คือ ช่วงเวลาที่หอมหวานที่สุดของความรัก

ความรัก จะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อทั้ง 2 ฝ่ายให้เกียรติซึ่งกันและกัน

ความรัก คือ ความพึงพอใจในสิ่งที่รัก

ความรัก ครั้งแรกและครั้งสุดท้าย มักจะเป็นรักตัวเอง

ความรัก คือ สิ่งที่คุณพบไม่ใช่สิ่งที่คุณแสวงหา

ความรัก ทำให้เราอภัยให้กันได้เสมอ โดยไม่เคยคำนวณว่ากี่ครั้ง ไม่ว่าจะเป็นรักแบบไหน ก็ต้องมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของมันเอง

ความรัก อยู่เหนือคำทำนาย และจะไม่ก้าวเดินไปตามคำพยากรณ์

แล้วคุณหละความรัก คืออะไร

"เศษ คารม"


เศษ "แก้ว" ยังมีคม 
     เศษ "คารม" ยังบาดใจ 
     เศษ "เหล็ก" ยังขายได้
          แต่เศษ "หัวใจ" ใครจะเอา





"คนที่ใช่...มาไม่บ่อย
  คนที่คอย...มาไม่ถี่...
      คนที่รัก...ไม่มา ซักที !!
               คนไม่รักดี...ไม่รู้จะมาทำไม ?





ไม่มี! "คนเลว" .. ก็ไม่รู้จัก "คนดี" ... 

ไม่มี! "หนี้" .. ก็ไม่รู้จัก "ประหยัด" !!!
ไม่มี! "นัด" .. ก็ไม่รู้จัก "เวลา" .........
ไม่มี! "น้ำตา" .. ก็ไม่รู้จัก "ใจคน" !!!




"รักที่แท้จริง"




เรือถ้าผูกไว้กับฝั่งก็จะไม่อับปาง...

แต่เรือไม่ได้ถูกสร้างเพื่อเทียบท่าเฉยๆ... 

เรือที่ดีต้องนำพาผู้โดยสารฝ่าฟันคลื่นลมไปถึงฝั่งอย่างปลอดภัย...

ความรักก็เช่นกัน...เราไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ด้วยกันตลอดเวลา... 

คนรักที่ดีก็คือ..คนที่มีความมั่นคงในรัก... 

แม้จะไม่ได้อยู่ข้างกันก็ไม่แบ่งปันหัวใจไปให้ใครอื่น... 

นี่แหละคือความรักที่แท้จริง ^

"ที่สุด"




 สิ่งที่ทนที่สุดคือ  หน้า
สิ่งที่กล้าที่สุดคือ  ใจ
สิ่งที่ไวที่สุดคือ  ปาก
        สิ่งที่มากที่สุดคือ  อารมณ์
    สิ่งที่คมที่สุดคือ  คำพูด

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"หน้ากาก"


  " หน้ากากต่อให้สวยงามแค่ไหน

 แต่ก็ไร้สมอง

มองคนอย่ามองแค่เปลือกนอก

จงอย่าหลงอยู่กับเปลือกความงามภายนอก

แต่จงมองลึกลงไปในจิตใจคน "

"กลอง สอนอะไร"




กลองระฆังดังเมื่อตีมีเสียงเพราะ
 ถ้าไม่เคาะก็ไม่ดังตั้งอยู่เฉย
 วิสัยปราชญ์มาตรไม่ถามไม่ภิเปรย
 ถึงคราวเอ๋ยแต่ละครั้งฝังใจคน

"ปลูกพืช กับทำบุญ"


หว่านพืชชนิดใดย่อมได้ผลเช่นนั้น 
ทำบุญเช่นใดก็ย่อมได้ผลเช่นนั้น
การทำบุญก็ไม่ต่างอะไรเลยกับการปลูกพืช 
ทำบุญต้องเลือกอาหารดีดีใช่ของบูดเน่า 
ปลูกพืชต้องเลือกเมล็ดพันธุ์ 
ดีดีเมื่อโตจะได้ต้นไม้ที่แข็งแรง


"ไปกับลม"


  










  คืนวันเก่าล้วนหายไป
คืนวันใหม่เข้ามาหา
วนเวียนเสมอกาลเวลา
มิอาจคว้าอย่างยั่งยืน

  ห้วงฝันนั้นพ้นผ่านแล้ว
ตะวันแววปลุกฟื้นตื่น
ภาพภวังค์เพียงชั่วคืน
จะเชยชื่นนานอย่างไร
 
 ดำเนินไปในความคิด
เริ่มชีวิตอันวิ่งไหว
สัมผัสกายส่งต่อใจ
ความเป็นไปในความจริง
 
  คืนวันนี้ก็พร้อมพราก
ร่องรอยซากสรรพสิ่ง
ทุกโมงยามย่อมทอดทิ้ง
ไม่มีนิ่งแม้นาที ....





"เมื่อก่อนไม่มีเรา วันนี้มีเรา พรุ่งนี้ไม่มีเรา"

เมื่อก่อนเรายังไม่เกิด มันก็ไม่มีเรา

วันนี้เราเกิดมา มันจึงมีเรา

พรุ่งนี้เราตาย สุดท้ายมันก็ไม่มีเรา