ชีวิตคล้ายเรือน้อย
เฉกชนม์นี้มีความหมายคล้ายเรือน้อย
ที่เพียงลอยตามแรงแห่งคลื่นโหมยามทุกข์เบียดบีฑาฝ่าคลื่นโครม
ยามสุขไร้คลื่นโจมลำนาวาลอยเรื่อยไปในห้วงน้ำตามกระแส
ชลาลัยผันแปรเปลี่ยนทิศาเวียนวกไปในน่านธารธารา
ไม่พบท่าเทียบฝั่งยั้งหยุดเรือมองชะแง้แลทิศคิดอยู่นิ่ง
ถ่วงเรือไว้ด้วยสิ่งทำหางเสือกำหนดทางคัดท้ายอยู่ปลายเรือ
ต้านกระแสความเชื่อที่เคยมีหวังจะไปให้ถึงลำสำเภาทอง
ที่ฉายส่องผ่องประกายรัศมีอยู่เบื้องหน้าไกลไกล โน้นที
จอดรอรับด้วยไมตรีมาช้านานจึงวาดพายไปบนสายทางเส้นนั้น
เรือน้อยพลันมีร่องรอยความร้าวฉานเกิดรูรั่วขึ้นมากมายในกระดาน
เปรียบทวารที่ซ่านไปในอารมณ์เหลียวหาชันยาเรือเมื่อน้ำเข้า
วิดน้ำเก่าเททิ้งสิ่งหมักหมมเพียรวาดพายให้เรือเบาเข้าแรงลม
อุดรอยรั่ว... วิดน้ำตม... เร่งรีบพายหมายสมัครสามัคคีมีในทาง
ไม่อ้างว้างมีเชือกเหนี่ยวเกลียวแปดสายกลายเป็นหนึ่งถึงสำเภาที่เงาพราย
เรือลำน้อยถึงที่หมายไม่เวียนวนโดย ดอกแก้วเรือชีวิตของเรานั้น
ได้ลอยละล่องไปกับเกลียวคลื่นแรงลมและอำนาจแห่งกรรมของตนเองกันมานานแสนนาน ..
บ้างก็จมลงก้นบึ้งและทะเลชีวิต โดยไม่มีทางกู้ขึ้นมาได้เลย
ก็เพราะเหตุแห่งมิจฉาทิฏฐิที่ฝังแน่นหนา หนักยิ่งอยู่ภายใต้จิตใจของตนเอง .
แต่ถ้าวันนี้ เราทั้งหลาย ยังมีโอกาสที่จะพาชีวิตเข้าฝั่ง
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีโอกาสเทียบท่าแห่งธรรม
อันอุดมสมบูรณ์ด้วยแสงสว่างและความร่มเย็นแล้ว ...
ท่านจะเพียรพาเรือชีวิตมาให้ ถึงท่ากันหรือไม่วันและเวลาของชีวิตนั้น
เรามีคนละน้อยนิด ถ้ายังไม่คิดให้ถูก คิดให้รอบครอบ
แล้วก็จะไม่มีทางที่จะหนีมหันตภัยแห่งอำนาจกรรมได้พ้นเลยนักล่าผู้ยิ่งใหญ่
ที่ไล่ตามล่าคร่าชีวิตของเราทุกคน สัตว์ทุกชนิด
ไม่ว่าจะเกิดในภูมิใดก็ตาม กำลังย่างใกล้เรามาทุกทีแล้ว
นั่นก็คือความตายด้วยเหตุนี้เอง เราจึงควรเลือกทางให้แก่ชีวิตที่ดีที่สุดเสียตั้งแต่เดี๋ยวนี้
แล้วเร่งกำลังแห่งความเพียรชอบประกอบด้วยสติ
และปัญญาที่จะนำเรือชีวิตลำน้อยของเรา