วันพุธที่ 5 กันยายน พ.ศ. 2555

"สติ สัมปชัญญะ"




"สติและสัมปชัญญะ "
ธรรมคู่นี้เป็นเครื่องมือเยี่ยมที่สุดซึ่งธรรมชาติให้เรามา เพื่อรบทัพจับศึกกับกิเลสผู้ทรงพลัง ได้อย่างสมน้ำสมเนื้อทีเดียว การทำความเข้าใจกับธรรมคู่นี้เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพราะเราใช้สติสัมปชัญญะปฏิบัติ เจริญวิปัสสนา ตามแบบ ม
หาสติปัฏฐาน4

สติ ทำหน้าที่ระลึกรู้อารมณ์ที่ปรากฏกับจิตต่อหน้าต่อตา เช่นรู้สึกสุข รู้สึกทุกข์ รู้สึกกังวลรู้สึกกลัว รู้สึกสงสัย รู้สึกรัก รู้สึกชัง เป็นต้น

สัมปชัญญะ เป็นตัวปัญญา ทำหน้าที่รู้ชัดเห็นชัดในอารมณ์นั้นๆ ตรงตามที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอน คือเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นในกายและจิตมีแต่ความแปรเปลี่ยนไปทั้งนั้น พระองค์สอนไม่ให้ยึดมั่นในสิ่งไม่แน่นอน มีอารมณ์อะไรผ่านมาผ่านไปก็ระลึกรู้อยู่เสมอ ผู้ปฏิบัติแค่สังเกตดูความเกิดดับเท่านั้น อะไรที่เกิดมาก็ปล่อยวางไป จิตที่ปล่อยวางอารมณ์คือจิตที่พ้นจากทุกข์

โบราณาจารย์ท่านเปรียบการเจริญสติสัมปชัญญะ
เหมือนชาวนาเกี่ยวข้าว คือสติทำหน้าที่รวบรวมข้าวเข้ามาไว้ในกำมือ(ดูอารมณ์)
และสัมปชัญญะทำหน้าที่เอาเคียวตัดรวงข้าวนั้น (วางอารมณ์)

"คุณค่าการสวดมนต์"



คุณค่าของการสวดมนต์ 
อยู่ที่การสำรวม กาย วาจา ซึ่งจัดเป็นศีล และจิตใจสงบ 
ผ่องแผ้วอยู่กับบทสวดเป็นสมาธิ เข้าใจความหมายของบทสวด 
เพิ่มพูนความคิดอ่านให้แตกฉานลึกซึ้ง จัดเข้าในปัญญา รวมความว่า 
เราสวดมนต์ให้ได้ "ศีล สมาธิ ปัญญา" ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของพุทธศาสนา 
อย่าสวดให้ขาดทุน คือสวดแล้วเสียเปล่า ไม่ได้อะไร นอกจากอุปาทานว่าเราได้สวดแล้ว


                                               

              

"ความโกรธ"



“ความโกรธแค้นจากจิตใจของมนุษย์ เหมือนคลื่นสมุทรที่ซัดเข้าหาฝั่ง 
จะทำลายทุกสิ่ง ให้ราบพัง จนกระทั่งแรงโกรธจางหายไป” 





"หมา" หวง "ก้าง"



หมาหวงก้าง

    บุคคลที่หวงในสิ่งที่แม้แต่ตนเองก็ไม่ ต้องการหรือใช้ประโยชน์ไม่ได้แล้ว , คนที่หวงของที่ตนเองไม่สามารถเอาได้ เช่น แมวไม่ใช้ดินสอแล้ว แต่ไม่ยอมให้ เพื่อนเพราะหวงเอาไว้คนเดียว ไม่ยอม แบ่งเพื่อนใช้ด้วย ถามตัวเองดูซิว่า วันนี้คุณกำลังทำตัวเป็นหมาหวงก้างอยู่รึเปล่า ถ้าเป็นคุณกำลังทุกข์รึสุขกับก้างที่คุณหวงไว้ ลองเปิดใจและปล่อยวาง ก้างในมือดีกว่ามั้ย เผื่อก้างนั้นจะมีประโยชน์กับคนอื่นมากกว่ามันจะอยู่ในมือเรา

"ใช่"หรือ"ไม่"


กับคำว่า…"รัก" ไม่มีคำว่า"ถูก" หรือ "ผิด"
ไม่มีคำว่า "ช้า" เกินไปหรือว่า "เร็ว" เกินไป
มีแต่คนที่ "ใช่" หรือ "ไม่" มันก็แค่นั้นเอง



"อยู่วัด"



…อยู่วัดอย่าวัดแต่เสื่อหมอน
พระท่านสอนให้วัดดัดนิสัย
วัดทวารทั้งสามตามวินัย
อย่าปล่อยให้วิบัติวัดให้งาม

…ไปวัดเพื่อดัดกายวาจาจิต
ทุจริตผิดกฏหมายพระท่านห้าม
เช่นกินเหล้าเข้าวัดจัดว่าทราม
ถูกประนามว่าทรชนคนเกเร

"บัว"พ้นน้ำ




บัวที่โผล่พ้นน้ำ ย่อมพ้นภัยจากสัตว์น้ำฉันใด
ใจที่พ้นจากกิเลสตัณหา ย่อมพ้นจากความทุกข์ฉันนั้น