วันจันทร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

"กรรม"


     อันมนุษย์เรานั้น เมื่อเกิดมาย่อมมีกรรมเป็นของตัวเองการทำดีไม่อาจลบล้างกรรมชั่วไว้ได้อุปมาเหมือน กรรมดีเป็นน้ำสะอาดหนึ่งขัน กรรมชั่วเป็นเกลือหนึ่งกำมือ คนเราเกิดมาใช้ชีวิตในโลกใบนี้เหมือนมีตุ่มน้ำคนละใบ เมื่อใดก็ตามที่เราทำชั่วก็เหมือนเติมเกลือลงไปในตุ่มถ้าทำกรรมชั่ว 10 ครั้ง เกลือในตุ่มก็จะมี 10 กำมือเมื่อไรก็ตามที่เราทำความดีก็เหมือนเติมน้ำลงไปในตุ่มถ้าทำดีสัก 20 ครั้ง ก็เท่ากับเราเติมน้ำลงไปในตุ่ม 20 ขันเราอาจมองไม่เห็นเกลือในตุ่มแต่เกลือไม่ได้หายไปไหนมันละลายไปรวมอยู่กับน้ำ ขึ้นอยู่กับว่าเราทำชั่วหรือทำดีมากกว่า ถ้าชั่วมากกว่าน้ำในตุ่มก็จะเค็มมาก แต่ถ้าดีมากกว่า น้ำในตุ่มอาจไม่จืดสนิท แต่จะรู้สึกรสชาติกร่อยลงเท่านั้น เปรียบเหมือนกับกระทำดีไม่อาจลบล้างบาปกรรมที่ทำไว้ได้ แต่จะสามารถผ่อนหนักให้เป็นเบาเท่านั้น เช่น ถ้าบาปกรรมที่ทำไว้จะส่งผลให้เราตาย เราทำดีมาก ๆ กรรมดีก็อาจส่งผลให้เราแค่บาดเจ็บก็ได้และเมื่อเราตายไปเราถ้าเราหิวน้ำเราก็ต้องกินน้ำในตุ่มนั้นแหละเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ถ้าท่านเลือกได้ท่านอยากให้มีเกลือในตุ่มมากกว่าหรือมีน้ำมากกว่าก็เลือกเอาเองแล้วกันคนเราเวลากระหายน้ำ กินน้ำเค็มมันไม่หายหิวหรอกนะคะจะทำให้ทรมานมากขึ้นด้วยป.ล.ที่สบาย หรือลำบากในชาตินี้เป็นผลจากการกระทำเมื่อชาติที่แล้ว เราแก้ไขอดีตไม่ได้แต่เรากำหนดอนาคตได้ ด้วยการทำวันนี้ให้ดี ด้วยการคิดดีทำดี พูดดี และไปในสถานที่ดี ๆ ขอให้ธรรมรักษาทุกคนค่ะ

                                                                                                           สุดที่รัก  รักที่สุด

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น